ข่าวสารประชาสัมพันธ์

สธ.ร่วมกับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด พัฒนานวัตกรรมยาชีวเภสัชภัณฑ์ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub
  • 1.9.2017
  • 15,391
สธ.ร่วมกับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด พัฒนานวัตกรรมยาชีวเภสัชภัณฑ์ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัดในการนำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ไปขยายผล รวมถึงการต่อยอดผลการวิจัยพัฒนาต้นน้ำเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หรือวิธีทดสอบ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง และประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพได้มากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub ภายในปี 2568 

 

ศ.คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องนำเข้ายาชีววัตถุปีละมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท แต่คนไทยสามารถเข้าถึงยาดังกล่าวได้เพียง 5,338 ราย ยังมีคนไทยที่ป่วยอีกกว่า 2 ล้านรายที่ต้องได้รับยาดังกล่าว ดังนั้นรัฐบาลจึงเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวภายใต้โมเดลประเทศไทย 4.0 โดยการส่งเสริมให้ภาครัฐร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษาในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ไปสู่เป้าหมายในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของนวัตกรรมกลุ่มสุขภาพ และผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub ในปี พ.ศ.2568 กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ปรับแผนการทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปีด้านสาธารณสุข ด้วยการปฏิรูประบบสาธารณสุข และสร้างความเข้มแข็งไปสู่ความยั่งยืน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำด้านการแพทย์และสาธารณสุข 1 ใน 3 ของเอเชีย

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่มีบทบาทสำคัญในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข ดังนั้นเพื่อให้ผลงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุขสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติได้สำเร็จ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้ร่วมมือทำข้อตกลงกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด โดยความร่วมมือครั้งนี้จะมีส่วนช่วยพัฒนาให้ไทยเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านการแพทย์ โดยการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยให้เกิดนวัตกรรมของประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาชีวเภสัชภัณฑ์ของภาคอุตสาหกรรม เพื่อลดการนำเข้าและสร้างมูลค่าทางการแข่งขัน ของประเทศส่งผลให้ประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายใต้โมเดลประเทศไทย 4.0 ตามแนวทางประชารัฐ

 

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีผลงานสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาชุดทดสอบที่ผ่านการประเมินและตรวจสอบคุณภาพ มีการผลิตในระบบคุณภาพ EN ISO 13485:2012 เช่น ชุดทดสอบมาลาเรีย ชุดตรวจเชื้อเลปโตสไปรา ชุดตรวจสเตียรอยด์ เป็นต้น การพัฒนาวิธีทดสอบด้านชีวโมเลกุล เช่น Real time PCR โดยมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญ คือ เอนไซม์ Taq Polymerase การพัฒนา Biotherapeutics โดยมีระบบการสร้างและผลิตรีคอมบิแนนท์โปรตีนใน E.coli และ mammalian cell เพื่อผลิตโปรตีนแอนติเจนและโมโนโคลนอลแอนติบอดี ชนิด prototype เพื่อทำการศึกษาในระดับพรีคลินิก และมีศูนย์วิจัยทางคลินิกทำการศึกษาวิจัยทางคลินิก นอกจากจะร่วมมือกันในการพัฒนายาชีวเภสัชภัณฑ์ภาคอุตสาหกรรม ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยผลักดันการนำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้จากการวิจัยและพัฒนา ไปขยายผล รวมถึงการต่อยอดผลการวิจัยพัฒนาต้นน้ำเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หรือวิธีทดสอบ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง และประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่เป้าหมายสูงสุด มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน 

 

รายงานโดย สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์, สถาบันชีววัตถุ, สำนักยาและวัตถุเสพติด

ที่มา :

1) http://www3.dmsc.moph.go.th/post-view/132

2) จดหมายข่าวกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปีที่ 31 ฉบับที่ 8 เดือนสิงหาคม 2560

ดาวน์โหลด

https://website.bdn.go.th/front/template/default/assets/image/icon/icon-file.svg
news6001
ประเภทไฟล์ : .pdf ขนาด : 0.48 Mb จำนวนดาวน์โหลด : 784
ข่าวสารอื่นๆ
ข่าวประชาสัมพันธ์
บุคลากรสำนักยาและวัตถุเสพติดร่วมประชุมเพื่อรับมอบแนวทางการดำเนินงานของสำนักจากผู้อำนวยการ
11.10.2024
บุคลากรสำนักยาและวัตถุเสพติดร่วมประชุมเพื่อรับมอบแนวทางการดำเนินงานของสำนักจากผู้อำนวยการ
บุคลากรสำนักยาและวัตถุเสพติดร่วมประชุมเพื่อรับมอบแนวทางการดำเนินงานของสำนักจากผู้อำนวยการ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. ภญ. ศิริวรรณ ชัยสมบูรณ์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักยาและวัตถุเสพติด ได้พบปะพูดคุยกับบุคลากรของสำนัก เพื่อมอบแนวทางการดำเนินงาน พร้อมทั้งให้แนวคิด Show and Share ในการทำงาน โดยเน้นย้ำให้บุคลากรทำงานอย่างมีความสุขและเกิดประสิทธิภาพ พร้อมปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและจัดสรรเวลาในการทำงานอย่างเหมาะสม ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการคนใหม่ของสำนักฯ โดยมี นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ให้เกียรติเข้าร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งมอบนโยบายเสริม เพื่อช่วยขับเคลื่อนการทำงานของสำนักฯ ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ในโอกาสนี้ รองผู้อำนวยการทั้งสามท่าน ได้แก่ ภก.สิริชัย กระบี่ศรี ภญ.บุญฑริกา บุญญาภิวัฒน์ และ ภญ.จิรานุช แจ่มทวีกุล พร้อมด้วยบุคลากรจากสำนักยาและวัตถุเสพติด ได้ร่วมกันมอบช่อดอกไม้ต้อนรับผู้อำนวยการใหม่ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยมิตรภาพ ณ ห้องประชุม NIH อาคาร 1 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ข่าวประชาสัมพันธ์
สำนักยาและวัตถุเสพติด และสถาบันวิจัยสมุนไพร ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาปรับปรุงภูมิทัศน์สถานที่ทำงาน
11.10.2024
สำนักยาและวัตถุเสพติด และสถาบันวิจัยสมุนไพร ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาปรับปรุงภูมิทัศน์สถานที่ทำงาน
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ภญ. ศิริวรรณ ชัยสมบูรณ์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักยาและวัตถุเสพติด และนายสันตกิจ นิลอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพร พร้อมด้วยบุคลากรจากทั้งสองหน่วยงาน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาในการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณอาคาร 2 และอาคาร 4 ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคลากรของทั้งสองหน่วยงาน ตลอดจนเพื่อรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ทำงาน โดยทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาพื้นที่ให้สวยงามและเป็นระเบียบ นับเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความร่วมมืออันดีและความตั้งใจที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับองค์กร
ข่าวประชาสัมพันธ์
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ยาเสพติดจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) จากโครงการ “การตรวจพิสูจน์ลักษณะเฉพาะของยาเสพติด (Drug profile) สำหรับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ของสำนักงาน ป.ป.ส.” และจากโครงการ “เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำหรับเจ้าหน้าที่ ห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รุ่นที่ 2“
8.3.2024
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ยาเสพติดจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) จากโครงการ “การตรวจพิสูจน์ลักษณะเฉพาะของยาเสพติด (Drug profile) สำหรับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ของสำนักงาน ป.ป.ส.” และจากโครงการ “เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำหรับเจ้าหน้าที่ ห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รุ่นที่ 2“
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ยาเสพติดจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) จากโครงการ “การตรวจพิสูจน์ลักษณะเฉพาะของยาเสพติด (Drug profile) สำหรับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ของสำนักงาน ป.ป.ส.” และจากโครงการ “เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำหรับเจ้าหน้าที่ ห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รุ่นที่ 2“จำนวนรวม 15 คน เข้าศึกษาดูงานที่สำนักยาและวัตถุเสพติด เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวให้มีความรู้ในการวิเคราะห์ลักษณะของตัวยาเสพติดทางกายภาพและทางเคมี การตรวจพิสูจน์ยาเสพติดให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การบริหารจัดการยาเสพติดของกลาง การส่งตรวจพิสูจน์ และการเก็บรักษา อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย และ สปป. ลาว ที่จะได้ร่วมมือกันในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยมีเภสัชกรสิริชัย กระบี่ศรี รองผู้อำนวยการสำนักยาและวัตถุเสพติด เป็นประธานกล่าวและให้การต้อนรับผู้เข้าศึกษาดูงาน พร้อมด้วยนายอดิศักดิ์ หมันหลิน และเจ้าหน้าที่กลุ่มวัตถุเสพติด ในการนี้นางสาวชญานิศ หิรัญวงษ์ ได้บรรยายเรื่อง “กระบวนการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด” พร้อมนำเสนอบทบาทหน้าที่ในการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของสำนักยาและวัตถุเสพติด ณ ห้องประชุมตำรายาฯ อาคาร 2 ชั้น 4 สำนักยาและวัตถุเสพติด จากนั้นได้นำคณะผู้ดูงานเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวัตถุเสพติด 1-3 เพื่อศึกษาเครื่องมือที่ใช้การตรวจวิเคราะห์ ตลอดจนรับทราบภารกิจของแต่ละห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้ยังได้ดูงานขั้นตอนการตรวจรับของกลาง ณ ห้องรับตัวอย่าง อาคาร 4 ชั้น 1 สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อีกด้วย