1. เงื่อนไขการให้บริการ / ขั้นตอนการให้บริการ / ตัวอย่างที่รับตรวจ / จำนวนตัวอย่าง / เอกสารประกอบการส่งตัวอย่าง / ระยะเวลาการให้บริการ
กลุ่มผู้รับบริการ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม หน่วยงานเอกชน
ดังรายละเอียด : คู่มือการให้บริการประชาชน (หน้าที่ 5, 16)
2. ขั้นตอนการส่งตัวอย่าง
2.1 วิธีการส่งตัวอย่าง
► ส่งด้วยตนเอง
ส่งที่ สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อาคาร 4 ชั้น 1 เวลา 8.30 – 15.30 น. เว้นวันหยุดราชการ
► ส่งทางไปรษณีย์
สามารถส่งทางไปรษณีย์ได้ โดยจัดส่งตัวอย่างปัสสาวะไม่น้อยกว่า 30 มิลลิลิตรในหีบห่อที่ปิดสนิท พร้อมเอกสารประกอบการส่งตัวอย่าง
ส่งไปที่ สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อาคาร 4 ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
หากต้องการรับรายงานในรูปแบบ e-report
โปรดกรอกรายละเอียดตัวอย่าง พร้อมแนบเอกสารประกอบการส่งตัวอย่าง ได้ที่ระบบรับส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ iLab Plus
ท่านจะได้รับ
วิดิทัศน์ : วิธีการใช้งานระบบรับส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ (iLab Plus) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
2.2 ชำระเงินค่าตรวจวิเคราะห์ (ถ้ามี) และรับหลักฐานการรับตัวอย่าง
ชำระเงินที่ ศูนย์รวมบริการ (One stop service center) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อาคาร 1 ชั้น 1 เว้นวันหยุดราชการ โทรศัพท์ 02 951 0000 ต่อ 99968 โดยชำระเงินพร้อมการส่งตัวอย่าง
ขั้นตอนการชำระเงินที่ศูนย์รวมบริการ
3. การปฏิเสธการรับตัวอย่าง
► ตัวอย่างจากเอกชนที่ไม่ใช่ลักษณะของหน่วยงาน
► จำนวนตัวอย่างน้อยกว่า 30 มิลลิลิตร
► ขวดตัวอย่างไม่ปิดผนึก
► ฉลากที่ขวดมีข้อความไม่ครบถ้วนหรือฉลากเลอะเลือน
► รายละเอียดหนังสือนำส่งไม่ครบถ้วนหรือไม่ตรงกับฉลากที่ขวด
► ชื่อผู้นำส่งไม่ตรงกับชื่อที่ระบุในหนังสือนำส่ง (กรณีไม่ใช่ผู้มิสิทธิตามกฎหมาย)
► ไม่แสดงบัตรประจำตัวผู้นำส่ง เช่น บัตรข้าราชการ บัตรประชาชน
4. อัตราค่าบำรุงการตรวจวิเคราะห์ยาเสพติด
อัตราค่าบำรุงการตรวจวิเคราะห์และให้บริการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ : : การคุ้มครองผู้บริโภค -> การตรวจวิเคราะห์ยาและวัตถุเสพติด
5. การรับผลตรวจวิเคราะห์ / การให้บริการอื่นๆ เกี่ยวกับรายงานผลวิเคราะห์
► การขอแก้ไขรายงาน
► การขอสำเนาใบรายงานผลการวิเคราะห์
► การแปลรายงานผลวิเคราะห์ฉบับภาษาอังกฤษ
► การจัดทำสำเนารายงานผลวิเคราะห์
รายละเอียดตาม คู่มือการให้บริการประชาชน (หน้าที่ 19)
6. คำถามคำตอบที่พบบ่อย
6.1 ต้องเก็บปัสสาวะปริมาตรเท่าไร
ตอบ: 30-60 มิลลิลิตร
6.2 ระยะเวลาการเก็บรักษาปัสสาวะ
ตอบ: ควรส่งห้องปฏิบัติการภายใน 48 ชั่วโมง ในสภาพแช่เย็น
6.3 อุณหภูมิในการเก็บรักษาปัสสาวะที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไร
ตอบ: 4-8 องศาเซลเซียส
6.4 ค่าใช้จ่ายในการตรวจยืนยันผล
ตอบ: ค่าใช้จ่ายการตรวจยืนยันผล 700 บาท/ชนิดสาร โดยไม่ขึ้นกับวิธีวิเคราะห์ (อ้างอิงจากราชกิจจานุเบกษาเล่ม 136 ตอนพิเศษ 130ง ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 หน้า 125-136)
6.5 ไอซ์ เป็นสารเสพติดประเภทไหน การออกฤทธิ์ และใช้ชุดทดสอบอะไรในการตรวจพิสูจน์
ตอบ: ไอซ์คือผลึกหรือผงเมทแอมเฟตามีน ที่มีความบริสุทธิ์สูง ที่ใช้สำหรับผลิตยาบ้า ไอซ์ออกฤทธิ์เหมือนยาบ้า และสามารถใช้ชุดทดสอบเมทแอมเฟตามีนในการตรวจปัสสาวะผู้ติด ผู้เสพ
6.6 มีชุดทดสอบสารระเหยในปัสสาวะหรือไม่ สามารถตรวจสารระเหยในปัสสาวะด้วยวิธีใด
ตอบ: ปัจจุบันยังไม่มีชุดทดสอบสารระเหยในปัสสาวะ การตรวจสารระเหยในปัสสาวะสามารถตรวจสารเมตาบอไลต์ของสารระเหยคือสาร Hippuric acid โดยวิธี High Performance Liquid Chromatography หรือ Gas Chromatography/Mass Spectrometry
6.7 ชุดทดสอบแบบแถบ และแบบตลับ เหมือนกันหรือต่างกัน อย่างไร
ตอบ: ชุดทดสอบแบบแถบ และแบบตลับ ใช้หลักการเดียวกัน ต่างกันที่ วัสดุ รูปแบบและวิธีการใช้
6.8 หลังจากเสพเมทแอมเฟตามีนไปแล้วกี่วัน จะยังมีสารเสพติดในปัสสาวะ
ตอบ: จะตรวจพบภายใน 1-3 วันหลังการเสพ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคลและความถี่ของการเสพ
6.9 สารเสพติดประเภทยาบ้า จะอยู่ในร่างกายนานเท่าไร
ตอบ: ยาบ้าจะถูกขับออกมา 70% ภายใน 24 ชม. หลังเสพ และมักจะตรวจพบภายใน 1-3 วัน หลัง 7 วันไปแล้ว มักจะตรวจไม่พบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล ความถี่ของการเสพ และอาหารที่รับประทาน เช่น ถ้ารับประทานอาหารที่ทำให้ปัสสาวะเป็นด่างจะทำให้การขับยาออกจากร่างกายช้าลง
6.10 ถ้าชุดทดสอบเกิดแถบสีแดงที่ตำแหน่ง C ชัดมาก แต่แถบสีที่ตำแหน่ง T เลือนลาง ให้อ่านผลอย่างไร
ตอบ: ให้อ่านเป็นผลลบ
6.11 สารเคมีที่ทำให้ตรวจหาสารเสพติดเป็นผลบวกลวง (ไม่ได้เสพยาบ้า แต่ให้ผลบวกกับชุดทดสอบ) มีอะไรบ้าง
ตอบ: สารที่ให้ผลบวกลวงกับชุดทดสอบได้คือ สารที่มีโครงสร้างคล้ายสารเสพติด แต่ปัจจุบันชุดทดสอบมีความจำเพาะเจาะจงสูง ทำให้มีผลบวกลวงน้อยลง แต่ก็ยังพบสารที่อาจให้ผลบวกลวงกับชุดทดสอบ เช่น ยาลดความอ้วน ยาที่ทำให้ไม่ง่วง Ranitidine Pseudoephedrine Dextromethorphan เป็นต้น
6.12 ช่วยยกตัวอย่างว่ารับประทานอะไรบ้างที่จะตรวจพบสารเมทแอมเฟตามีน เพราะบางครั้งเขาจะอ้างว่าดื่มเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เช่น กระทิงแดง
ตอบ: สารที่รับประทานหรือเสพแล้ว จะตรวจพบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ คือ ยาบ้า และไอซ์ สารที่ให้ผลบวกลวงกับชุดทดสอบ ได้แก่สารที่มีโครงสร้างคล้ายกัน เช่น ยาลดความอ้วน ยาที่ทำให้ไม่ง่วง แต่ในกระทิงแดงไม่มีสารเหล่านี้ การดื่มกระทิงแดงจึงไม่ทำให้เกิดผลบวกลวง
6.13 วิธีการใช้ชุดทดสอบที่ถูกต้อง จะต้องทำอย่างไร
ตอบ: อ่านคู่มือให้เข้าใจ และทดสอบตามคำแนะนำในคู่มือ
6.14 การเก็บชุดทดสอบก่อนการใช้งานควรเก็บอย่างไร อุณหภูมิเท่าไร อุณหภูมิมีผลต่อชุดตรวจหรือไม่
ตอบ: เก็บรักษาตามที่ระบุในคู่มือของผลิตภัณฑ์
6.15 การใช้ชุดทดสอบชนิดแถบที่ถูกต้อง
ตอบ: การใช้ชุดทดสอบชนิดแถบที่ถูกต้องคือจุ่มปลายชุดทดสอบลงในปัสสาวะ อย่าให้เกินขีดบอกระดับ บนแผ่นทดสอบ ตามเวลาที่กำหนด (ประมาณ 10 วินาที) แล้วหยิบขึ้นวางบนพื้นราบ จับเวลาและอ่านผลตามที่ระบุในคู่มือ
6.16 ปริมาตรปัสสาวะที่หยดในหลุมทดสอบมีผลต่อการตรวจหรือไม่ จำเป็นต้องใช้หลอดหยดที่มากับชุดทดสอบนั้นหรือไม่ หากไม่ได้ใช้ จะมีผลกับการแปลผลหรือไม่
ตอบ: ปริมาตรปัสสาวะที่หยดในหลุมทดสอบมีผลต่อการแปลผลการทดสอบ และควรใช้หลอดหยดที่ให้มากับชุดทดสอบ โดยใช้จำนวนหยดตามที่ระบุในเอกสารกำกับ
6.17 การถ่ายปัสสาวะใส่ถ้วยในปริมาณมากน้อยต่างกัน มีผลต่อการตรวจเบื้องต้นหรือไม่
ตอบ: ปริมาตรของปัสสาวะที่เก็บได้ ไม่มีผลต่อการตรวจเบื้องต้น
6.18 สามารถเก็บปัสสาวะไว้ก่อนส่งตรวจยืนยันผลนานเท่าไหร่
ตอบ: หากเก็บที่อุณหภูมิ 4-8 °C ได้นาน 2-3 เดือน ถ้าแช่แข็งอาจเก็บได้ประมาณ 6 เดือน แต่แนะนำให้ส่งตรวจภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ปัสสาวะบูดเน่า
6.19 ถ้าใช้ชุดทดสอบของโรงพยาบาล และตำรวจ ได้ผลตรงกัน แต่ส่งตรวจยืนยันผลที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ แล้วได้ผลลบ จะแก้ปัญหาอย่างไร
ตอบ: รายงานผลของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นการตรวจยืนยันผลโดยใช้วิธีแยกสกัดสาร และตรวจอย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่ามีสารเสพติดอยู่ในปัสสาวะนั้นจริงๆ ควรยึดผลจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นหลัก