กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขเผยปัญหาเชื้อดื้อยาในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เดินหน้าเร่งพัฒนาอบรมเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลเครือข่ายเฝ้าระวังเชื้อแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพทั่วประเทศ และสร้างเครือข่ายบูรณาการเพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลและความรู้ใหม่ๆ ทันต่อสถานการณ์ และร่วมมือกันแก้ปัญหาเชื้อดื้อยาแบบบูรณาการตามแผนยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวว่า ปัญหาเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในคนดื้อยาเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยตลอดจนประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เนื่องจากพบว่าเชื้อโรคมีแนวโน้มดื้อยาต้านจุลชีพเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรคติดเชื้อต่างๆ ที่เคยรักษาและควบคุมได้กลายเป็นโรคติดเชื้อเรื้อรังและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อที่เคยรักษาหายกลับรักษาไม่หาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อในโรงพยาบาลที่มักจะได้ยามาหลายขนานแล้ว เชื้อดื้อยาเป็นภัยเงียบที่อยู่ใกล้ตัวเราอย่างมาก โดยแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อดื้อยาประมาณ 38,000 คน คิดเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยรวมสูงถึง 4.2 หมื่นล้านบาท และถ้าเชื้อแบคทีเรียดื้อยาครบทุกขนานจะไม่มียาใดสามารถรักษาโรคติดเชื้อได้ ประกอบกับการใช้ยาต้านแบคทีเรียที่มากเกินความจำเป็น เร่งให้การกลายพันธุ์เกิดเร็วขึ้น ดังนั้นการชะลอปัญหาเชื้อดื้อยาจึงต้องเริ่มต้นที่ห้องปฏิบัติการก่อน โดยการตรวจจะต้องได้ผลถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และต้องคอยติดตามปรับปรุงวิธีตรวจให้ทันกับเชื้ออยู่เสมอ นอกจากนี้การเฝ้าระวังทางห้องปฎิบัติการเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีความสำคัญเพราะเป็นกระบวนการแรกที่จะทำให้ทราบขนาดและแนวโน้มของปัญหาเชื้อดื้อยา รวมทั้งตรวจจับเชื้อดื้อยาอุบัติใหม่